ช่วงนี้พี่ๆ น่าจะได้ทราบข่าวกันว่า มิจฉาชีพที่โทรมาหลอกลวงหรือแก๊งคอลเซ็นเตอร์ กำลังกลับมาทำงานกันอีกครั้ง แถมยังมาพร้อมมุกหลอกลวงใหม่ๆ ที่ทำให้พี่ๆ หลายคนต้องตกเป็นเหยื่อ สูญเสียทั้งทรัพย์สิน สูญเสียทั้งความรู้สึก 
ยังแฮปปี้ และ TrueDtac ไม่อยากให้พี่ๆ ต้องตกเป็นเหยื่อของเหล่ามิจฉาชีพ จึงอยากแนะนำให้พี่ๆ รู้จักกับ Whoscall แอปฯ สุดล้ำที่ช่วยเช็คได้ว่า เบอร์ที่โทรมาเป็นเบอร์ใคร ให้พี่ๆ ปลอดภัย ไม่ต้องรับ ไม่ต้องถูกหลอก ปลอดภัยจากมิจฉาชีพแน่นอน การันตีด้วยยอดดาวน์โหลดทั่วโลกกว่า 100 ล้านดาวน์โหลดเลยทีเดียว 
ลองไปรู้จักกับ Whoscall กันให้มากขึ้น พร้อมวิธีการใช้งานกันดีกว่า 
<img src="https://storage.googleapis.com/younghappy-web-bucket/post_uplaod/2024/09/true-whoscall-04.jpg" alt="undefined" style="height: auto;width: auto"/>
Whoscall ทำงานอย่างไร 
โดยการทำงานของแอปฯ Whoscall จะสามารถระบุข้อมูลเบื้องต้นของเบอร์ที่โทรเข้ามาได้ทันที โดยการเก็บข้อมูลจากผู้ใช้งานที่รายงานเข้ามาก่อนหน้าว่า เบอร์เหล่านี้เป็นเบอร์ของมิจฉาชีพ ทำให้เกิดเป็นฐานข้อมูลขนาดใหญ่ เมื่อมีผู้ใช้งานคนอื่นใช้งานแอปฯ ก็จะสามารถทราบได้ทันทีว่าเบอร์เหล่านั้น เป็นเบอร์ของมิจฉาชีพแน่นอน 


<img src="https://storage.googleapis.com/younghappy-web-bucket/post_uplaod/2024/09/true-whoscall-05.jpg" alt="undefined" style="height: auto;width: auto"/>
โทรมาปุ๊บ รู้ปั๊บ มิจฉา หรือ มิตรแท้
อย่างที่อธิบายไปว่า Whoscall ใช้ฐานข้อมูลที่เก็บจากผู้ใช้งาน ทำให้นอกจากการกรองเบอร์ที่น่าสงสัย หรือเบอร์ที่เข้าข่ายเป็นมิจฉาชีพแล้ว ทำให้พี่ๆ ไม่ต้องเสียเวลาไปกดรับให้หงุดหงิดใจ และยังสามารถช่วยให้พี่ๆ ไม่พลาดเบอร์โทรศัพท์สำคัญที่โทรเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นเบอร์จากบริษัที่ติดต่อธุระสำคัญ หรือคนรู้จักที่พี่ๆ ไม่ได้บันทึกเบอร์ไว้ได้อีกด้วย


<img src="https://storage.googleapis.com/younghappy-web-bucket/post_uplaod/2024/09/true-whoscall-06.jpg" alt="undefined" style="height: auto;width: auto"/>
กรอง SMS จากลิงค์หลอกลวง
นอกจากช่วยกรองเบอร์โทรศัพท์แล้ว Whoscall ยังช่วยกรอง SMS น่าสงสัย ที่อาจจะมีลิงค์หลอกลวง หรือลิงค์สแปมที่เป็นอันตราย เห็นปุ๊บ ก็สบายใจได้เลยว่า พี่ๆ จะไม่เผลอไปกดลิงค์น่ากลัวๆ ที่อาจหลอกให้พี่ๆ ติดตั้งแอปฯ ดูดเงิน เรียกว่าอุ่นใจสองต่อเลยทีเดียว 
เพียงแค่พี่ๆ ดาวน์โหลดแอปฯ Whoscall ติดเครื่องไว้ ก็ช่วยลดความเสี่ยงในการรับเบอร์โทรศัพท์หรือรับ SMS มิจฉาชีพได้แล้ว 


<img src="https://storage.googleapis.com/younghappy-web-bucket/post_uplaod/2024/09/true-whoscall-07.jpg" alt="undefined" style="height: auto;width: auto"/>

แถมพิเศษสุดๆ ถ้าพี่ๆ สมัครแพ็คเกจ ‘สบายใจวัยเก๋า’ ราคาเริ่มต้นเพียง 399 บาท ก็จะได้ใช้ Whoscall Premium ฟรี 30 วัน มูลค่า 59 บาทด้วย

รู้ไหมใครโทรมา: วิธีเช็คเบอร์โทรว่าเป็น มิจฉา หรือ มิตรแท้ ด้วย Whoscall

<h2>พี่ๆ เคยเป็นไหม อยากจะไปหาหมอทีไร ต้องรู้สึกลำบากใจเวลาไปที่โรงพยาบาลหรือคลินิกทุกครั้ง นอกจากเรื่องต้องรอคิวนานแล้ว สาเหตุหลักคือเรื่องของการเดินทางในกรุงเทพฯ ที่รถติดสุดๆ ไหนจะต้องเสี่ยงกับเชื้อโรคมากมายอีกด้วย </h2>
ยังแฮปปี้ และ TrueDtac จึงอยากมาแนะนำนวัตกรรมสุดล้ำกับ แอปฯ ‘หมอดี’ ที่ช่วยให้พี่ๆ สามารถหาหมอออนไลน์ได้แบบง่ายๆ ไม่ต้องเดินทาง แค่มีมือถือต่อเน็ต ไม่ว่าอยู่ที่ไหนก็สามารถคุยปรึกษาหมอได้ทันที แถมสำหรับพี่ๆ ที่สมัครแพ็คเกจ ‘สบายใจวัยเก๋า’ ราคาเริ่มต้นเพียง 399 บาท ก็สามารถรับสิทธิ์หาหมอออนไลน์ผ่านแอปฯ หมอดี สูงสุดถึง 150 บาทแบบฟรีๆ ทุกเดือน แถมได้ส่วนลดค่ายา 10% อีกด้วย 
มาดูกันว่า 5 ข้อดี ของการใช้แอปฯ หมอดี มีอะไรบ้าง 

<img src="https://storage.googleapis.com/younghappy-web-bucket/post_uplaod/2024/08/truedtac_%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%B5-04.jpg" alt="undefined" style="height: auto;width: auto"/>
1.คุยกับหมอสดๆ ผ่านมือถือ ไม่ต้องเดินทาง
หากการเดินทางเป็นอุปสรรคในการไปหาหมอ ก็ลองใช้เทคโนโลยีให้เป็นประโยชน์ เพียงแค่มีมือถือต่อเน็ต โหลดแอปฯ ก็สามารถพูดคุยทั้งวิดีโอคอล โทร หรือจะแชทกับคุณหมอก็ทำได้แบบง่ายๆ


<img src="https://storage.googleapis.com/younghappy-web-bucket/post_uplaod/2024/08/truedtac_%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%B5-05.jpg" alt="undefined" style="height: auto;width: auto"/>
2.นัดหมายล่วงหน้า จัดเวลาได้ตามสะดวก
ด้วยระบบของแอปฯ สุดล้ำ สามารถนัดหมายเวลาในการเข้าพบคุณหมอล่วงหน้า ได้ตามเวลาที่พี่ๆ สะดวก


<img src="https://storage.googleapis.com/younghappy-web-bucket/post_uplaod/2024/08/truedtac_%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%B5-06.jpg" alt="undefined" style="height: auto;width: auto"/>
3.หมอเก่งเพียบ เลือกได้ตามใจชอบ
ภายในแอปฯ ได้รวบรวมคุณหมอฝีมือดีกว่า 500 ท่านจากหลากหลายโรงพยาบาลชั้นนำ จะรักษาโรคทั่วไปหรือโรคเฉพาะทาง ก็มีให้เลือกมากมาย 

<img src="https://storage.googleapis.com/younghappy-web-bucket/post_uplaod/2024/08/truedtac_%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%B5-07.jpg" alt="undefined" style="height: auto;width: auto"/>
4.จ่ายยาให้ถึงบ้าน หมดกังวลใจ
หลังจากที่ปรึกษากับคุณหมอเรียบร้อยแล้ว หากคุณหมอแจ้งว่ามียาที่ต้องใช้รักษาต่อ ก็มีบริการจัดส้่งให้ถึงบ้าน หมอกังวลใจเรื่องยา ไม่ต้องไปหาซื้่อเอง 


<img src="https://storage.googleapis.com/younghappy-web-bucket/post_uplaod/2024/08/truedtac_%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%B5-08.jpg" alt="undefined" style="height: auto;width: auto"/>
5.ประกันสุขภาพก็เคลมได้ ไม่ต้องสำรองจ่าย
สำหรับพี่ๆ ที่ได้ทำประกันสุขภาพไว้ ก็ไม่ต้องสำรองจ่าย สามารถกรอกข้อมูลเพื่อทำการเบิกเคลมได้ทันที


<img src="https://storage.googleapis.com/younghappy-web-bucket/post_uplaod/2024/08/truedtac_%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%B5-09.jpg" alt="undefined" style="height: auto;width: auto"/>
พิเศษสุด! สมัครแพ็คเกจ ‘สบายใจวัยเก๋า’ ราคาเริ่มต้นเพียง 399 บาท สามารถรับสิทธิ์หาหมอออนไลน์ผ่านแอปฯ หมอดี สูงสุดถึง 150 บาทแบบฟรีๆ ทุกเดือน แถมได้ส่วนลดค่ายา 10% อีกด้วย

รู้จัก 5 ข้อดีกับ ‘หมอดี’ แอปหาหมอแบบล้ำๆ ไม่ต้องไปโรงพยาบาล

พี่aๆ เคยเป็นไหม เป็นวัยเก๋าทั้งที ทำไมอะไรๆ ที่เหมาะสมกับวัยก็หายากไปหมด 
โดยเฉพาะอย่างยิ่งโปรมือถือ ที่ไม่มีโปรเหมาะๆ กับวัยเราสักเท่าไร ไหนจะเวลาโทรไม่พอ เน็ตไม่พอใช้ ค่าใช้จ่ายแพงเกินไป เรียกว่าไม่พอดีกับสิ่งที่พี่ๆ ต้องการ 
ยังแฮปปี้เลยอยากจะมาแนะนำสิทธิประโยชน์ดีๆ ของแพ็คเกจมือถือที่ TrueDtac ออกแบบมาเพื่อผู้สูงอายุอย่าง ‘สบายใจ วัยเก๋า’ เพียงแค่ชื่อก็บอกแล้วว่าสบายใจ ด้วยค่าใช้จ่ายเริ่มต้นเพียงเดือนละ 399 บาทเท่านั้น แถมยังมีสิทธิพิเศษอื่นๆ จากบริการที่จัดมาให้สำหรับพี่ๆ วัยเก๋าโดยเฉพาะ ทั้งโทรคุ้ม เน็ตแรง สุขภาพดี และมีความรู้ 
มาเปิดแพ็คเกจ ‘สบายใจ วัยเก๋า’ จาก TrueDtac ไปด้วยกัน ว่าในราคาแค่ 399 บาทจะคุ้มค่าขนาดไหน บอกเลยว่ามีแต่ได้กับได้! 

<img src="https://storage.googleapis.com/younghappy-web-bucket/post_uplaod/2024/06/package_truedtac-03.jpg" alt="undefined" style="height: auto;width: auto"/>
สบายใจ ได้เน็ต ได้โทร คุ้มค่ายิ่งกว่าโปรไหนๆ ได้ความคุ้มสุด เริ่มต้นเพียง 399 บาท

สำหรับพี่ๆ ที่กังวลเรื่องค่าโทรศัพท์ ก็หมดห่วงด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 399 บาท หมดปัญหาค่าโทรไม่พอ เพราะโทรได้ถึง 150 นาทีทุกเครือข่าย ปริมาณการใช้เน็ตก็หมดห่วง เพราะให้มากถึง 20 GB ที่ความเร็วสูงสุด 1 Gbps แรงๆ แบบจัดเต็มไปเลย แถมยังได้ใช้ Wifi ฟรีแบบไม่จำกัดอีกด้วย หรือพี่ๆ คนไหนอยากได้ค่าโทรหรือค่าเน็ตเพิ่ม ก็สามารถอัพเป็นราคา 499 บาทและ 599 บาทได้อีกด้วย

<img src="https://storage.googleapis.com/younghappy-web-bucket/post_uplaod/2024/06/package_truedtac-04.jpg" alt="undefined" style="height: auto;width: auto"/>
สบายใจ ได้ช้อปปิ้งฟรี ที่ Lotus’s ได้รับคูปองเงินสดมูลค่าสูงสุด 100 บาท ช้อปปิ้งฟรีได้ทุกเดือน!

สำหรับพี่ๆ สายช้อปปิ้ง จะได้รับคูปองเงินสดมูลค่า 50 บาท (หากสมัครแพ็คเกจ 599 บาทจะได้รับคูปองมูลค่า 100 บาท) ทุกเดือนแบบฟรีๆ เอาไว้ใช้ช้อปปิ้งของกินของใช้ที่ Lotus’s และ Lotus’s go fresh ใกล้บ้าน

<img src="https://storage.googleapis.com/younghappy-web-bucket/post_uplaod/2024/06/package_truedtac-05.jpg" alt="undefined" style="height: auto;width: auto"/>
สบายใจ ได้หาหมอออนไลน์ฟรี กับแอปฯ หมอดี ได้หาหมอออนไลน์ มูลค่า 150 บาท และส่วนลดค่ายา 10% อีกด้วย!

สำหรับพี่ๆ ที่กังวลเรื่องเดินทางไปหาหมอ ก็หมดห่วงด้วยสิทธิ์หาหมอออนไลน์ผ่านแอปฯ หมอดี สูงสุดถึง 150 บาทแบบฟรีๆ ทุกเดือน จะปรึกษาเรื่องสุขภาพ หรือรักษาอาการเจ็บป่วย ก็ทำได้แบบล้ำๆ ผ่านมือถือ แถมได้ส่วนลดค่ายา 10% เพื่อใช้ภายในแอปฯ หมอดีอีกด้วย 

<img src="https://storage.googleapis.com/younghappy-web-bucket/post_uplaod/2024/06/package_truedtac-06.jpg" alt="undefined" style="height: auto;width: auto"/>
สบายใจ ได้ส่วนลดค่าตรวจสุขภาพ กับ N-Health​ ได้รับส่วนลดค่าตรวจสุขภาพ 50% เหลือเพียง 750 บาท! จากราคาเต็ม 1,810 บาท

สำหรับพี่ๆ ที่กำลังมีแผนไปตรวจสุขภาพ เพียงแค่สมัครแพ็คเกจนี้ ก็ได้รับส่วนลดค่าตรวจสุขภาพ 50% เหลือเพียง 750 บาท ที่ N-Health​ คลินิกเทคนิคการแพทย์ ผู้นําด้านบริการตรวจสุขภาพ ที่มีมากถึง 30 สาขาทั่วไทย สะดวกที่ไหนก็ไปเช็คสุขภาพได้ในราคาพิเศษกันไปเลย 

<img src="https://storage.googleapis.com/younghappy-web-bucket/post_uplaod/2024/06/package_truedtac-07.jpg" alt="undefined" style="height: auto;width: auto"/>
สบายใจ ได้ใช้ Whoscall Premium ฟรี ​ปลอดภัยจากมิจฉาชีพ ใช้ Whoscall Premium ฟรี 30 วัน มูลค่า 59 บาท! 

สำหรับพี่ๆ ที่กังวลใจกับการหลอกหลวงจากมิจฉาชีพ ที่ทุกวันนี้ยังคงมาในรูปแบบใหม่ๆ อยู่เสมอ เพราะฉะนั้นแอปฯ Whoscall จึงเป็นตัวช่วยสำคัญที่ทำให้พี่ๆ สามารถรู้ได้ว่าเบอร์ที่โทรมาเป็นมิจฉาชีพหรือไม่ ที่สำคัญคือสมัครแพ็คเกจแล้วใช้ฟรีไปเลย 

<img src="https://storage.googleapis.com/younghappy-web-bucket/post_uplaod/2024/06/package_truedtac-08.jpg" alt="undefined" style="height: auto;width: auto"/>
สบายใจ ได้เรียนออนไลน์ฟรี กับ YoungHappy Plus ทุกเดือน​ ได้รับสิทธิ์เรียนฟรี มูลค่าเดือนละ 349 บาท!

สำหรับพี่ๆ ที่รักการเรียนรู้ตลอดชีวิตแบบไม่สนวัย ต้องสมัครแพ็คเกจนี้ เพราะจะได้รับสิทธิ์เรียนออนไลน์ฟรีกับ YoungHappy Plus แพลตฟอร์มเรียนรู้สำหรับวัยเก๋า ที่มีคลาสเรียนสดๆ ให้เข้าเรียนได้ทุกวันจันทร์ถึงอาทิตย์ กับคลาสเรียนมากมาย ทั้งการออกกำลังกาย การดูแลสุขภาพ ภาษาใหม่ๆ รวมไปถึงทักษะที่ใช้ในชีวิตประจำวัน และที่สำคัญยังได้รวมเรียนกับเพื่อนวัยเก๋าวัยเดียวกันอีกด้วย
 สมัครแพ็คเกจ ‘สบายใจ วัยเก๋า’ ได้ที่ทรู ดีแทคช้อปทุกสาขา หรือช่องทางทรู สโตร์ คลิกเลย <a href="https://bit.ly/48tD4Q5" target="_self">https://bit.ly/48tD4Q5 </a>​

เปิดแพ็คเกจ สบายใจ วัยเก๋า จาก TrueDtac เน็ตแรง สุขภาพดี มีความรู้

“ทุกวันนี้พี่ๆ ยังอ่านหนังสืออยู่ไหม”

เชื่อว่าวัยเก๋าหลายคนบอกว่าเลิกอ่านไปนานแล้ว ซึ่งเหตุผลสำคัญคงหนีไม่พ้นเรื่องของสายตาที่เปลี่ยนไป ทำให้อ่านหนังสือตัวเล็กๆ ได้ลำบาก และตัดสินใจเปลี่ยนไปเสพสื่อใหม่ๆ อย่างคลิปวิดีโอต่างๆ แทน 

แต่สำหรับพี่ๆ บางคนที่ยังอยากอ่านหนังสืออยู่ ตัวเลือกอย่างการอ่าน ‘E-book’ หรือหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ กลายเป็นทางเลือกใหม่ที่ช่วยให้ผู้สูงอายุสามารถอ่านหนังสือได้อย่างสะดวกสบาย เพราะมีจุดเด่นสำคัญคือสามารถขยายตัวหนังสือให้ใหญ่เต็มจอได้ ยิ่งการเปิดในแท็บเล็ต ก็ยิ่งช่วยให้การอ่านหนังสือที่มีตัวหนังสือเล็กๆ ไม่ใช่อุปสรรคอีกต่อไป 

รู้หรือไม่ว่า จากผลสำรวจในโครงการวิจัยพฤติกรรมการอ่านและการซื้อหนังสือของคนไทย ในปี 2567 ซึ่งสมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ ร่วมกับคณะจิตวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทำการสำรวจกลุ่มตัวอย่างทุกเพศวัยจำนวน 2,550 คนทั่วประเทศ อายุตั้งแต่ 12-50 ปี ระหว่างเดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์ 2567 พบว่า คนไทยมีพฤติกรรมการอ่านรวมทุกกลุ่มอายุเฉลี่ย 113 นาทีต่อวัน หรือเกือบ 2 ชั่วโมงต่อวัน เรียกว่าเป็นตัวเลขที่ไม่น้อยเลยทีเดียว 

ความน่าสนใจคือ กลุ่มผู้สูงอายุ 50 ปีขึ้นไป เลือกอ่านหนังสือผ่าน E-book สูงถึง 58% เนื่องจากสามารถซูมขยายตัวหนังสือได้ ทำให้อ่านได้ง่ายขึ้น รวมทั้งเทคโนโลยีแท็บเล็ตในยุคใหม่ ทำให้มีความสบายตาในขณะอ่านมากขึ้น และน่าสนใจไปกว่านั้น คือ 38% ยังคงอ่านหนังสือเป็นรูปเล่มแบบเดิม 

จากผลสำหรับดังกล่าว สะท้อนให้เห็นว่าผู้สูงอายุ ยังคงเป็นช่วงวัยที่ให้ความสำคัญกับการอ่าน ซึ่งเป็นหนึ่งในวิธีการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ได้ดีที่สุด โดยไม่สนใจเรื่องอายุ

ยังแฮปปี้จึงอยากให้พี่ๆ ได้ลองเปิดใจเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ตลอดชีวิต ด้วยการอ่านกันเถอะ

ผลสำรวจเผย วัยเก๋ายุคใหม่อ่าน E-book เพราะขยายตัวหนังสือได้ใหญ่เต็มตา

ช่วงนี้พี่ๆ น่าจะได้ยินข่าวเกี่ยวกับกระแสของ AI (Artificial Intelligence) หรือ ปัญญาประดิษฐ์ กันมากขึ้น ว่ามีศักยภาพในการช่วยให้มนุษย์อย่างเราๆ สามารถทำงานได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น หรือสามารถเข้ามาทดแทนงานบางอย่างที่มนุษย์ไม่สามารถทำได้ 

แต่ขณะเดียวกัน การนำ AI มาใช้งานก็เหมือนเป็นดาบสองคม ที่เหล่ามิจฉาชีพนำมาใช้เป็นเครื่องมือสร้างความเข้าใจผิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างรูปภาพเกินจริง ที่เกิดจากการ generative โดย AI ด้วยการป้อนคำสั่งหรือ prompt เข้าไป เพื่อสร้างเนื้อหาขึ้นใหม่จากข้อมูลที่มีอยู่ ซึ่งสามารถทำได้ง่ายผ่านเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันบริการต่างๆ มากมาย

ยกตัวอย่างเช่น ภาพถ่ายเด็กที่สามารถสร้างสรรค์งานประดิษฐ์ขึ้นมาจากเศษขยะ ได้แบบสวยงามเหลือเชื่อ ซึ่งเป็นภาพที่เกิดจากการป้อน prompt หรือคำสั่งเข้าไป ให้ AI สร้างภาพขึ้นมา แต่ด้วยภาพที่ออกมาสวยงามมากๆ มีเรื่องราวน่าสนใจ จึงทำให้หลายคนหลงเชื่อว่าเป็นภาพถ่ายจริงๆ และเกิดความเข้าใจผิดได้

<img src="https://storage.googleapis.com/younghappy-web-bucket/post_uplaod/2024/03/ai-01_0.jpg" alt="undefined" style="height: auto;width: auto"/>

ยังแฮปปี้จึงไม่อยากให้พี่ๆ วัยเก๋าต้องตกเป็นเหยื่อ จึงมาแนะนำวิธีสังเกตรูปภาพที่สร้างมาจาก AI ดังต่อไปนี้
- ภาพสวยงามมากๆ ทั้งองค์ประกอบและแสง 
- เหตุการณ์ที่เกิดในภาพดูเกินจริงไปมากๆ
- มีจุดผิดปกติ เช่น ผิวคนเรียบเนียนเกินไป มีอวัยวะเกินหรือขาด

ถ้าเจอภาพที่มีลักษณะเหล่านี้ อย่าเพิ่งเชื่อ! อย่าเพิ่งเมนต์! อย่าเพิ่งแชร์! แล้ววัยเก๋าจะรู้เท่าทันเทคโนโลยีแบบที่วัยไหนก็ดูถูกไม่ได้แน่นอน

วัยเก๋าต้องไม่ตกเป็นเหยื่อ! วิธีสังเกตรูปภาพที่สร้างมาจาก AI 

พี่ๆ คนไหนกำลังอยากจะถอยมือถือใหม่ แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะซื้อรุ่นไหนดี ยังแฮปปี้ขอแนะนำเช็คลิสต์ เผยสเปกที่เหมาะสำหรับวัยเก๋า ถ้ามีครบตาม 5 ข้อนี้ ก็ตัดสินใจได้เลย 

<img src="https://storage.googleapis.com/younghappy-web-bucket/post_uplaod/2023/08/picpost-9-1-06.png" alt="undefined" style="height: auto;width: auto"/>


#จอใหญ่ - ขนาด 6.5 นิ้ว ขึ้นไป ดูเต็มจอ อ่านชัด สบายตา 
#แบตอึด - ความจุ 5000mAh ขึ้นไป
ใช้งานได้นานทั้งวัน หมดกังวลแบตหมด 
#เมมโมรี่เยอะ - ความจุ 64 GB ขึ้นไป
เก็บรูป เซฟคลิปเท่าไร ก็ไม่ต้องกลัวเต็ม 
#กล้องสวย - ความละเอียด 10 ล้านพิกเซล ขึ้นไป
ถ่ายรูปสวย คมชัดทุกความทรงจำ 
#ลำโพงดัง - เสียงดี ฟังชัด
คุยโทรศัพท์ ดูหนัง ฟังเพลง บันเทิงเริงใจ

5 เช็คลิสต์ ก่อนซื้อมือถือใหม่ สเปกแบบไหนโดนใจวัยเก๋า

พี่ๆ เริ่มรู้สึกไหม ว่าช่วงนี้ เริ่มเสพติดการเล่นไลน์ เล่นเฟซบุ๊ก หรือดูติ๊กต๊อก เป็นเวลานาน ถ้าไม่ได้หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา จะเริ่มรู้สึกหงุดหงิด เหมือนขาดอะไรไปสักอย่าง หรือไม่ได้อัพเดตข่าวสารใหม่ๆ ก็เริ่มรู้สึกตามไม่ทันเพื่อน 
นี่คืออาการเริ่มต้นของการเสพติดโซเชียลฯ มาเกินไป ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสภาพอารมณ์และจิตใจของพี่ๆ วัยเก๋าในระยะยาว ก่อนจะกระทบไปยังร่างกาย อย่างเช่นการนอนไม่หลับ สมาธิสั้น ปวดหัว และเหนื่อยล้าง่าย 
จริงๆ แล้วอาการเหล่านี้ สามารถแก้ไขได้ไม่ยาก เพียงแค่รู้จักการทำ Social Detox หรือการบำบัดอาการเสพติดการใช้โซเชียลมีเดีย ที่ส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจ ซึ่งโดยปกติแล้ววิธีการดังกล่าว เป็นวิธีที่ใช้ได้กับทุกวัย แต่ยังแฮปปี้ขอปรับเปลี่ยนวิธีการให้เหมาะกับพี่ๆ ผู้สูงอายุ รับรองเลยว่า เลิกเสพติดโซเชียลฯ ในโลกออนไลน์ แล้วหวนกลับสู่โลกออฟไลน์ ที่พี่ๆ คุ้นเคยได้อย่างแน่นอน 
<img src="https://storage.googleapis.com/younghappy-web-bucket/post_uplaod/2023/08/picpost5-08-06.jpg" alt="undefined" style="height: auto;width: auto"/>

1.ตั้งปิดแจ้งเตือนทั้งหมด เหลือไว้แต่เสียงโทรศัพท์
ถ้าพี่ๆ กลัวว่าจะขาดการติดต่อผ่านไลน์ อย่าลืมว่าเรายังมีเบอร์โทรศัพท์ ที่สามารถติดต่อกับญาติสนิทมิตรสหายได้เหมือนเดิม เพราะบางอย่างที่ส่งต่อกันมาในไลน์ ก็อาจเป็นข้อมูลเท็จหรือข่าวปลอมที่สร้างความเข้าใจผิดก็เป็นได้ 
2.เลิกหยิบมือถือมาเช็ค แต่ถือหนังสือมาอ่านแทน
ลองละจากการหยิบมือถือขึ้นมาเช็คหรืออ่านอะไรต่างๆ ในโซเชียล เพราะบางข้อมูลที่ฟีดขึ้นมาให้อ่าน บางครั้งก็อาจจะไม่มีประโยชน์เทียบเท่ากับการหยิบหนังสือขึ้นมาอ่าน 
3.ร่วมกิจกรรมแบบออฟไลน์ โดยไม่ต้องถ่ายรูปลงโซเชียล
เชื่อว่าพี่ๆ ส่วนใหญ่ เวลาไปร่วมกิจกรรมต่างๆ มักจะชอบถ่ายรูปเพื่ออัพเดตหรือส่งต่อให้เพื่อนๆ ในไลน์อยู่เสมอ จนบางครั้งไปโฟกัสอยู่กับการถ่ายรูปมากจนเกินไป ทำให้ไม่ได้ทำกิจกรรมนั้นๆ อย่างเต็มที่ ลองตั้งใจทำกิจกรรมแบบไม่ต้องถ่ายรูปดู รับรองว่ากิจกรรมนั้นๆ จะสนุกขึ้นแน่นอน 
4.อัพเดตข่าวสารจากโทรทัศน์ช่องหลัก แทนสื่อออนไลน์
อย่างที่ทราบกันว่า สื่อออนไลน์ทุกวันนี้ เต็มไปด้วยโฆษณาและข่าวปลอมต่างๆ ที่หวังผลประโยชน์ จนแยกแยะยาก อยากลองชวนพี่ๆ กลับไปรับชมข่าวสารจากโทรทัศน์ช่องหลักที่คุ้นเคย ซึ่งน่าเชื่อถือได้มากกว่า 
5.ใช้เวลากับงานอดิเรกที่รักจริงๆ 
สุดท้ายแล้ว ไม่มีอะไรดีไปกว่า การที่พี่ๆ ได้ลองวางมือถือ แล้วหันไปใช้เวลากับงานอดิเรกที่รักจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นการปลูกต้นไม้ ทำกับข้าว ทำขนม หรือทำงานประดิษฐ์ ก็เป็นสิ่งที่ดีต่อใจทั้งนั้น และที่สำคัญ ห้าม! อัพภาพลงโซเชียลฯ นะจ๊ะ เพราะสิ่งที่เราทำจะเก็บอยู่ในใจเราเป็นอย่างดี ไม่ต้องอวดใคร หรือรอคอมเมนต์ใดๆ สบายใจที่สุดแล้ว

วิธีทำ Social Detox ฉบับวัยเก๋า เลิกเสพติดโซเชียลฯ กลับสู่โลกที่คุ้นเคย

ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา พี่ๆ น่าจะได้เห็นถึงกระแสของแอปฯ หนึ่งที่กำลังฮิตและเป็นที่พูดถึงในหมู่วัยรุ่นกันพักใหญ่ ที่ว่ากันว่าเป็นแอปฯ ที่จะมาโค่น Twitter หนึ่งในแอปฯ โซเชียลมีเดียที่เน้นการโพสต์ข้อความขนาดสั้น และมีปริมาณผู้ใช้งานเป็นอันดับต้นๆ ของโลก แต่วันนี้กลับมีแอปฯ หนึ่งมีฟังก์ชันคล้ายๆ กัน เปิดให้บริการไปหมาดๆ นั่นก็คือแอปฯ ที่มีชื่อว่า Treads นั่นเอง

ยังแฮปปี้ ไม่อยากให้วัยเก๋าต้องตกยุค จึงอยากชวนไปรู้จักกับเจ้าแอปฯ นี้ ในรูปแบบข้อมูลสั้นๆ อ่านแล้วรู้จักทันที ลองไปทำความรู้จักกันเลย 
<ul>
<li>เจ้าของเดียวกับ facebook และ Instagram </li>
<li>มีฟังก์ชันเหมือน Twitter </li>
<li>ใช้ง่าย แค่เชื่อมต่อผ่านบัญชี Instagram </li>
<li>โพสต์ข้อความได้ 500 ตัวอักษร วิดีโอได้ยาว 5 นาที </li>
<li>มีการคุมเนื้อหาที่สุภาพและเป็นมิตรกว่า Twitter </li>
<li>มีผู้สมัครใช้งานวันแรกกว่า 10 ล้านคนทั่วโลก </li>
</ul>
สำหรับพี่ๆ คนไหนที่อยากทดลองใช้ ให้ลองเข้าไปที่ Google Play Store หรือ App Store แล้วพิมพ์ค้นหาคำว่า Treads ได้เลย

รู้จัก Treads แอปโซเชียลยอดฮิต ที่ว่ากันว่าจะมาโค่น Twitter 

พี่ๆ หลายคน น่าจะคุ้นเคยกับฟังก์ชันหรือคุณสมบัติของ นาฬิกาข้อมือ ที่มีไว้บอกเวลาหรือวันที่ แต่ยุคสมัยที่เปลี่ยนไป นาฬิกาข้อมือไม่ได้มีไว้แค่บอกเวลาเพียงอย่างเดียว แต่ยังสามารถติดตามสถานะสุขภาพของผู้สวมใส่ โดยเฉพาะผู้สูงอายุได้อีกด้วย

<h2>ยังแฮปปี้เลยอยากจะมาแนะนำให้พี่ๆ รู้จักและลองใช้งาน Smart Watch หรือ นาฬิกาอัจฉริยะ ที่มีคุณสมบัติในการติดตามสถานะสุขภาพของพี่ๆ ได้ตลอด 24 ชั่วโมงเลยทีเดียว โดยความล้ำสมัยของสมาร์ทวอช คือการเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันในโทรศัพท์มือถือ เพื่อรายงานผลที่เก็บข้อมูลจากเซ็นเซอร์บนตัวเรือน คอยทำหน้าที่ติดตามและสังเกตสถานะสุขภาพต่างๆ เช่น อัตราการเต้นของหัวใจ ความดันโลหิต ไปจนถึงการเคลื่อนไหวร่างกาย และที่สำคัญ ด้วยคุณสมบัติขนาดนี้ ไม่ต้องกังวลเรื่องราคา เพราะสมาร์ทวอชในปัจจุบัน ราคาเริ่มต้นเพียงหลักร้อยเท่านั้น! ก็สามารถใช้งานเพื่อสุขภาพได้แล้ว</h2>

แต่ก่อนที่พี่ๆ จะตัดสินใจซื้อ ยังแฮปปี้มีเช็คลิสต์ฟังก์ชันของสมาร์ทวอช ที่ถ้ามีครบก็เลือกซื้อได้ตามชอบเลย

#วัดอัตราการเต้นของหัวใจ ฟังก์ชันพื้นฐานที่ช่วยวัดว่าอัตราการเต้นของหัวใจพี่ๆ อยู่ในระดับไหน มีความเสี่ยงที่หัวใจจะเต้นเร็วหรือช้าเกินไปหรือไม่ ซึ่งเหมาะสำหรับพี่ๆ ที่มีปัญหาโรคหัวใจ

#นับก้าวเดิน อีกหนึ่งฟังก์ชันพื้นฐาน ที่ช่วยติดตามจำนวนก้าวเดินในแต่ละวันของพี่ๆ ให้เป็นไปตามเป้าหมายได้ รวมไปถึงวัดระยะทางในการเดินหรือวิ่งด้วยระบบ GPS เพื่อสุขภาพที่แข็งแรงตามที่ตั้งใจ

#ติดตามการนอนหลับ ฟังก์ชันที่ช่วยติดตามจำนวนชั่วโมงในการนอน เข้านอนเวลาเท่าไร และตื่นขึ้นตอนไหน รวมทั้งระยะเวลาที่ร่างกายของพี่ๆ สามารถหลับลึกได้เพียงพอหรือไม่ 

#วัดความดันโลหิต ถือเป็นฟังก์ชันที่สำคัญมากสำหรับพี่ๆ ที่มีปัญหาเรื่องความดัน แม้ว่าจะวัดได้ไม่แม่นยำเท่ากับเครื่องมือทางการแพทย์ แต่ก็สามารถตรวจสอบเบื้องต้นได้

#แจ้งเตือนขอความช่วยเหลือ ความพิเศษของฟังก์ชันนี้ เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน อย่างเช่นอุบัติเหตุหกล้ม หรือเกิดปัญหาสุขภาพแบบเฉียบพลัน สมาร์ทวอชจะส่งข้อความหรือสัญญาณไปยังมือถือของบุคคลใกล้เคียงที่ใส่ข้อมูลไว้ เพื่อให้ติดตามช่วยเหลือได้ทันที 

นอกจากฟังก์ชันสุดล้ำทั้งหมดที่เล่าไปข้างต้นแล้ว ในสมาร์ทวอชรุ่นใหม่ๆ ยังมีคุณสมบัติพิเศษล้ำๆ อีกมากมาย อย่างเช่นการวัดระดับออกซิเจนในเลือด วัดระดับไขมันและปริมาณน้ำในร่างกายได้อีกด้วย 

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงฟังก์ชันเบื้องต้น เพื่อให้พี่ๆ สามารถตัดสินใจเลือกซื้อสมาร์ทวอชได้ตรงใจ และคุ้มค่ากับราคาที่จ่ายไปนั่นเอง

พี่ๆ คนไหนกำลังใช้สมาร์ทวอชรุ่นไหนอยู่ ลองมาแชร์ป้ายยาให้เพื่อนวัยเก๋าได้ลองใช้ไปด้วยกันนะคะ

เทคโนโลยี